ณ เวลาตีสี่ (หรือ 4 นาฬิกาของชีวิตวัยสิบสี่ปี)

– เวลาตีสี่สำหรับผู้คนส่วนใหญ่คงจะยังนอนหลับอยู่ แต่บางคนต้องตื่นขึ้นมาทำงานตั้งแต่เช้ามืดในช่วงเวลานี้แล้ว เด็กหลายคนมีโอกาสได้เรียนแค่ระดับประถมศึกษาและต้องออกมาช่วยพ่อแม่ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว บางคนเริ่มทำงานหาเงินเพื่อสร้างฐานะตั้งแต่ในวัยสิบสี่ปี แล้วค่อยๆไต่เต้ายกระดับ ?ช่วงชั้น? (Strata) จนกลายเป็นอัครมหาเศรษฐีของเมืองไทย โดยไม่มีโอกาสได้เรียนสูงๆในระบบการศึกษาปรกติเหมือนคนทั่วไป แต่อาศัยการขวนขวายแสวงหาความรู้ต่างๆด้วยตัวเองนอกระบบการศึกษา จนประสบความสำเร็จในการสร้างฐานะทางเศรษฐกิจ การศึกษาของชีวิตจึงไม่น่าจะมีความหมายที่คับแคบ โดยเพียงแค่หมายถึงการศึกษาในระบบโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเท่านั้น
16– ตีสี่ของนาฬิกาแห่งชีวิตเป็นหลักบอกเวลาสำคัญอีกจุดหนึ่งในความเปลี่ยนผ่านจากเด็กสู่การเป็นเยาวชนวัยรุ่น ซึ่งเป็นช่วงที่อยู่ระหว่างความเป็นเด็กกับความเป็นผู้ใหญ่ และเป็นห้วงเวลาที่สับสนมากที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิต เพราะว่าจะเป็นเด็กที่คอยพึ่งพ่อแม่ในแทบทุกเรื่องเหมือนเดิมก็ไม่ใช่ หรือจะเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้อย่างอิสระในด้านต่างๆก็ไม่เชิง แต่ทุกชีวิตรับรู้อยู่ว่าตนเองจะต้องเติบโตต่อไปเป็นผู้ใหญ่และต้องรับผิดชอบชีวิตของตัวเองด้วยตนเอง โดยจะคอยพึ่งพาพ่อแม่ตลอดไปเหมือนเด็กเล็กๆไม่ได้อย่างแน่นอน แล้วเราจะเตรียมตัวอย่างไรเพื่อเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอันใหญ่หลวงของชีวิต ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

?การเลียนแบบ? (Identification) จึงเป็นกลไกป้องกันตัวเองทางจิตวิทยาอย่างหนึ่งที่วัยรุ่นมักนำมาใช้ เพื่อลดภาวะความสับสนตึงเครียดในชีวิตช่วงระยะเปลี่ยนผ่านนี้ แต่พ่อหรือแม่คงไม่ใช่สัญลักษณ์ที่มีนัยสำคัญ (significant symbols) สำหรับการเลียนแบบในกรณีดังกล่าว เพราะมีเงื่อนไขที่แตกต่างจากเราหลายอย่าง บุคคลที่วัยรุ่นจะ ?เลียนแบบ? จึงมักได้แก่คนมีชื่อเสียงในวัยที่ห่างกันไม่มากซึ่งประสบความสำเร็จในชีวิต เช่น ดารา นักร้อง หรือนักกีฬา เป็นต้น ถ้าเราแต่งกายเหมือนคนเหล่านั้น มีทรงผมเหมือนคนเหล่านั้น ฯลฯ เราก็คงจะได้รับความยอมรับจากสังคมเหมือนคนเหล่านั้นด้วย อันทำให้มีความรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้นที่จะไปที่ไหนมาไหนได้อย่างไม่เคอะเขิน โดยไม่รู้สึกถูกมองว่าเป็นลูกแหง่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม คล้ายกับภาษิตที่ว่า ?เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด? เพียงแต่ผู้ใหญ่ดังเช่นพ่อหรือแม่นั้นเดินทิ้งช่วงห่างจากเราไปมาก เราจึงต้องเลือกเดินตามคนข้างหน้าที่อยู่ใกล้กว่า ซึ่งมีอายุต่างจากเราไม่มากนักอันพอจะเลียนแบบได้

– เพื่อนจึงเป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลต่อวัยรุ่นมาก เพราะมีหัวอกเดียวกัน อยู่ภายใต้สถานะของสภาพสังคมสิ่งแวดล้อมที่คล้ายคลึงกับตัวเรา อันสามารถจะพึ่งพาช่วยเหลือกันได้ในหลายเรื่อง การ ?เลียนแบบ? เพื่อนฝูงรอบข้าง ในสิ่งที่เป็น ?อัตลักษณ์? (Identity) ซึ่งสื่อแสดงถึงความเป็น ?คนพวกเดียวกัน? จึงเป็นพฤติกรรมปรกติอย่างหนึ่งของชีวิตช่วงนี้

ad

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *